简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:การเทรด Spot คือการซื้อขายสินทรัพย์จริงแบบไม่มี Leverage เหมาะกับสายลงทุนระยะยาว ส่วน Future คือการเก็งกำไรผ่านสัญญาซื้อขาย ใช้ Leverage ได้แต่มีความเสี่ยงสูง มือใหม่ควรเริ่มจาก Spot ก่อนเพื่อเข้าใจตลาดจริงก่อนขยับสู่ Future
ช่วงนี้มีนักเทรดหน้าใหม่หลังไมค์มาถามแอดเหยี่ยวเยอะมากว่า “เทรด Spot กับ Future มันต่างกันยังไง?” บางคนเพิ่งเริ่มเทรด บางคนกำลังเลือกแพลตฟอร์มซื้อขาย แล้วเจอคำว่า Spot กับ Future ก็เริ่มงงๆ ว่าควรเลือกอะไรดี
บทความนี้แอดเหยี่ยวจะพานักเทรดทุกท่านมาเข้าใจชัดๆ ว่า“เทรด Spot คืออะไร” และ“เทรด Future คืออะไร” และควรเลือกแบบไหนให้เหมาะกับสไตล์การเทรดของเราเอง
เทรด Spot (Spot Trading) คือการซื้อขายสินทรัพย์แบบส่งมอบทันที (หรือเกือบทันที) โดยอ้างอิงราคาตลาดในขณะนั้น เช่น ถ้าคุณซื้อ Bitcoin บนตลาด Spot เท่ากับคุณได้ “ครอบครองจริง” ในเวลานั้นเลย
ยกตัวอย่าง: ถ้า BTC อยู่ที่ 1,000,000 บาท แล้วคุณมีเงินสดซื้อ 1 BTC แบบเต็มจำนวน → เทรดเสร็จคุณได้ BTC จริงมาเก็บไว้ในกระเป๋าเงินดิจิทัลของคุณเลย
เทรด Future (Futures Trading) คือการซื้อขาย “สัญญา” ที่ผูกกับราคาสินทรัพย์ โดยไม่ต้องถือของจริง แต่เก็งกำไรจากการขึ้นหรือลงของราคา จุดสำคัญคือสามารถ เปิดสถานะ Long หรือ Short ได้ (ซื้อหรือขายล่วงหน้า) และยังสามารถใช้ Leverage หรือ “เงินกู้” จากโบรกเกอร์เพื่อเพิ่มขนาดการเทรดได้
ยกตัวอย่าง: คุณมีทุน 10,000 บาท แต่ใช้ Leverage 10 เท่า → เท่ากับคุณสามารถเปิดสัญญาเทรดที่มูลค่า 100,000 บาทได้ แต่ถ้าราคาผิดทาง 10% ก็อาจถูกล้างพอร์ตได้เลย
แล้วจะเลือกเทรดอะไรดี? แอดเหยี่ยวขอแบ่งง่ายๆ แบบนี้
นักเทรดสายไหน | เหมาะกับอะไร |
มือใหม่ | Spot ก่อนเลย ปลอดภัยกว่า |
นักลงทุนระยะยาว | Spot เพราะได้ของจริง เก็บได้ |
เทรดเดอร์สายสั้น | Future เพราะเข้าไว-ออกไว |
คนรับความเสี่ยงสูง | Future พร้อม Leverage |
คนอยากเรียนรู้การจัดพอร์ต | Spot ช่วยให้เข้าใจตลาดก่อน |
แต่ไม่ว่าจะเทรดแบบไหน จุดที่แอดเหยี่ยวอยากย้ำคือ ต้องเข้าใจก่อนลงเงินจริง เพราะ Spot กับ Future ไม่ใช่แค่ชื่อคล้ายกัน แต่กลยุทธ์และความเสี่ยงต่างกันคนละโลก
ใครที่เพิ่งเริ่มต้น แอดเหยี่ยวแนะนำให้ลองเริ่มจาก Spot Market ก่อน เพื่อเข้าใจธรรมชาติของราคาจริงในตลาด แล้วค่อยศึกษาวิธีใช้ Future อย่างปลอดภัยทีหลัง
ถ้านักเทรดคนไหนยังลังเล หรืออยากให้แอดเหยี่ยวช่วยดูพอร์ต วางกลยุทธ์ว่าจะจัด Spot + Future อย่างไรให้บาลานซ์ ก็แวะมาทักหลังไมค์ได้เสมอ
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
WikiFX เปิดตัวโครงการ SkyLine Guide เพื่อจัดอันดับโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ท้องถิ่นอย่างโปร่งใส โดยใช้ระบบประเมินหลายมิติและผู้เชี่ยวชาญ 100 คน สำหรับประเทศไทยปี 2024 หนึ่งในโบรกเกอร์ที่ถูกเลือกคือ XM ซึ่งฉลองครบรอบ 15 ปีด้วยการอัปเกรดโครงสร้างพื้นฐาน เพิ่มความเสถียรและความเร็วการส่งคำสั่งไม่กี่มิลลิวินาที XM ยังเปิดตัวเครื่องมือเทรดขับเคลื่อนด้วย AI ต่อเนื่องจาก Copy Trading และ AI Index เพื่อช่วยนักลงทุนตัดสินใจได้แม่นยำยิ่งขึ้น SkyLine Guide ได้รับการขนานนามว่าเป็น “Michelin Guide” แห่งวงการฟอเร็กซ์ และจะมีการประเมินรอบใหม่ในปี 2025
รีวิวโบรกเกอร์
รีวิวโบรกเกอร์
บทความนี้กล่าวถึง "พอร์ตแตก" ว่าไม่ใช่จุดจบของเส้นทางเทรด แต่คือบทเรียนสำคัญที่แม้แต่มือโปรก็เคยเจอ ผู้เขียนยกตัวอย่างเทรดเดอร์ระดับโลกที่เคยพลาด แต่กลับมายืนในตลาดได้ด้วยวินัย การเรียนรู้ และแผนการใหม่อย่างรอบคอบ ข้อสรุปคือ ความพลาดไม่ใช่ปัญหาใหญ่เท่ากับการไม่ลุกขึ้นอย่างมีสติหลังจากพลาดต่างหาก.
FXTRADING.com
KVB
STARTRADER
Exness
OANDA
Saxo
FXTRADING.com
KVB
STARTRADER
Exness
OANDA
Saxo
FXTRADING.com
KVB
STARTRADER
Exness
OANDA
Saxo
FXTRADING.com
KVB
STARTRADER
Exness
OANDA
Saxo