简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:การเทรดให้เข้าใจพื้นฐานอาจใช้เวลาไม่กี่เดือน แต่การทำกำไรอย่างสม่ำเสมอใช้เวลานานกว่านั้น เพราะต้องฝึกวินัย ควบคุมอารมณ์ และสร้างระบบเทรดของตัวเอง ไม่มีสูตรลัด ทุกคนต้องเรียนรู้ผ่านประสบการณ์และความสม่ำเสมอในการฝึกฝน
มีคำถามน่าสนใจจากนักเทรดมือใหม่ในชุมชนว่า “ขอสอบถามพี่ๆที่ศึกษาการเทรดด้วยตัวเองใช้เวลากี่เดือนหรอครับ กว่าจะเข้าใจแล้วหาจุดเข้าเทรดทำกำไรได้ แล้วควรเริ่มต้นศึกษาจากอะไรก่อนครับ”
คำถามนี้สะท้อนความกระหายในการเรียนรู้ และความอยากเข้าใจตลาดของนักเทรดรุ่นใหม่ได้อย่างชัดเจน แอดเหยี่ยวเลยถือโอกาสรวบรวมความคิดเห็นของนักเทรดมากประสบการณ์ที่เข้ามาตอบ พร้อมวิเคราะห์ และเสริมแนวทางให้เห็นภาพว่า “การเข้าใจตลาด” กับ “การทำกำไรได้จริง” ไม่ใช่เรื่องเดียวกัน และใช้เวลาไม่เท่ากัน
“เป็นปีครับ...”
“เป็นปีครับ เทรดเฉพาะจังหวะที่ดี ไม่ฝืนเทรดทุกวัน อย่าหลอกตัวเองว่าจะทำกำไรทุกวัน บางสัปดาห์เทรดแค่1-3ครั้ง แล้วแต่สภาพตลาด แต่กำไรตลอด เน้นรอ Supply and demand ไม่ใช่รับต้าน ดูหลายคู่ว่าคู่ไหนน่าเทรด ไม่ได้ตายตัวแค่อย่างใดอย่างหนึ่ง มีจุดเข้าออกชัดเจน วางแผนล่วงหน้า รอราคาถึง ไม่เทรดระหว่างทาง ไม่เทรดก่อนข่าวสำคัญจะมา อ่านข่าวนอกและในตารางเป็น ลบข้อเสี่ยงไปเยอะๆก็จะช่วยให้เทรดง่ายขึ้น แต่ถ้ารู้ตัวว่าห้ามใจไม่ได้ เป็นผีพนันก็แนะนำให้เลิกเทรด ไปทำงานปกติครับ เพราะต้องมีวินัยสูงสายนี้”
“ลองดูคลิปในยูทูป โดยเฉพาะของต่างประเทศ...”
“ลองดูคลิปใน ยูทูปครับ โดยเฉพาะของต่างประเทศ เรียนรู้ไปเรื่อยๆครับเอาให้ตกผลึก ลองเทรดดู มี SL และ TP และที่สำคัญ ต้องรอให้เข้าหน้าเทรดของเราเองค่อยเทรดครับ ถ้า SL หรือ TP ก็จดเป็นข้อมูลไว้ครับว่า เพราะอะไร”
“4 ปีแล้วค่ะ...”
“4 ปีแล้วค่ะ (ปีแรกเดโม่ - ปี 2-3 เทรดจริงแต่ขาดทุนเพราะศึกษาไม่มากและใช้อารมย์ล้วนๆ - ปีที่4 ใช้แต่เทคนิกที่ win rate 70-80% ไม่เฝ้ากราฟ ตั้ง alert ราคา แล้วไปใช้ชีวิต สรุป กำไร 200%++”
“ผมใช้เวลาเป็น 10 ปี...”
“ผมใช้เวลาเป็น 10 ปีครับกว่าจะมีระบบเทรดเป็นของตัวเอง แต่ปัจจุบันมีเครื่องมือที่ล้ำนำสมัยน่าจะใช้เวลาไม่นาน ยิ่งศึกษาผ่าน AI และผู้รู้จริงๆบวกการลงสนามจริงด้วยตนเองในจำนวนเงินน้อยที่สุดก่อนน่าจะใช้เวลาไม่นานมากไม่ถึงปี ต่อเมื่อมีเมื่อสร้างระบบเทรดที่เป็นของตนเองได้แล้ว ค่อยใส่เต็มmaxครับ”
คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ
“ยังศึกษาต่อไปเรื่อย ๆ เปลี่ยนไปตามสถานการณ์ปัจจุบัน เริ่มจากการเงินส่วนบุคคล ก่อน”
สิ่งที่นักเทรดรุ่นพี่ทุกคนพูดคล้ายกันคือ
เรียนรู้เรื่องเทรนด์, แนวรับแนวต้าน, price action, risk management, supply & demand – สิ่งเหล่านี้หาเรียนได้จาก YouTube, คอร์สออนไลน์ หรือหนังสือดีๆ ได้ภายในไม่เกิน 6 เดือน หากตั้งใจ
เพราะต้องรวมทั้งการฝึกวินัย, การเข้าใจพฤติกรรมตลาด, การควบคุมอารมณ์ และการสร้างระบบเทรดที่เหมาะกับตนเอง
บางคนสำเร็จใน 1 ปี บางคน 5 ปี บางคน 10 ปี ขึ้นกับความลึกของการเรียนรู้ และ “ความซื่อสัตย์ต่อการฝึกของตัวเอง”
พื้นฐานตลาด
Technical Analysis
Risk Management
ฝึกเทรดในบัญชีเดโม่ หรือบัญชีเงินจริงเล็กๆ
ฝึกใจ
“เวลาไม่ใช่ตัวชี้วัดว่าคุณจะเทรดเก่งเมื่อไหร่ แต่ความลึกในการเรียนรู้ต่างหากที่สำคัญ”จะ 3 เดือน หรือ 3 ปี ถ้ายังไม่รู้ว่าแพ้เพราะอะไร ก็ยากจะพัฒนา แต่ถ้าเรียนรู้แบบมีระบบ ควบคุมใจได้ สุดท้ายก็จะเข้าสู่ “โซนกำไร” อย่างมั่นคง เพราะวิชาเทรด...ไม่ใช่แค่การอ่านกราฟ แต่คือการฝึกตัวตน แอดเหยี่ยวขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่เดินบนเส้นทางนี้ครับ
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
บทความนี้กล่าวถึง "พอร์ตแตก" ว่าไม่ใช่จุดจบของเส้นทางเทรด แต่คือบทเรียนสำคัญที่แม้แต่มือโปรก็เคยเจอ ผู้เขียนยกตัวอย่างเทรดเดอร์ระดับโลกที่เคยพลาด แต่กลับมายืนในตลาดได้ด้วยวินัย การเรียนรู้ และแผนการใหม่อย่างรอบคอบ ข้อสรุปคือ ความพลาดไม่ใช่ปัญหาใหญ่เท่ากับการไม่ลุกขึ้นอย่างมีสติหลังจากพลาดต่างหาก.
บทความนี้เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างตลาดหุ้นและ Forex พร้อมยกตัวอย่างเทรดเดอร์ระดับโลกอย่าง George Soros, Stanley Druckenmiller และ Bill Lipschutz ที่เริ่มต้นจากหุ้นก่อนเปลี่ยนมาเทรด Forex อย่างจริงจัง จุดเปลี่ยนสำคัญคือความผันผวนสูง โอกาสทำกำไรระยะสั้น และความยืดหยุ่นของตลาด Forex สุดท้ายผู้เขียนสรุปว่า ไม่ว่าคุณจะเทรดอะไรก็ตาม ความเข้าใจและกลยุทธ์ที่เหมาะสมคือหัวใจสำคัญของความสำเร็จ.
บทความนี้เปรียบเทียบการเทรด Forex กับเกมหมากรุก ที่เน้นการวางแผนล่วงหน้าและการบริหารความเสี่ยงอย่างมีระบบ ตัวอย่างจาก Patrick Wolff แสดงให้เห็นว่าจิตวิทยาการลงทุนและวินัยคือกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในตลาดการเงิน ไม่ใช่แค่เทคนิคหรือโชคช่วย การคิดเชิงกลยุทธ์และการควบคุมอารมณ์จึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเทรดเดอร์มืออาชีพ.
บทความนี้เน้นให้เห็นว่า “จิตวิทยาการลงทุน” คือปัจจัยสำคัญที่สุดที่ทำให้เทรดเดอร์อยู่รอดในตลาด ไม่ว่าจะเป็น Forex, Crypto หรือหุ้น มากกว่าความรู้ทางเทคนิคเพียงอย่างเดียว โดยแอดเหยี่ยวได้สรุป 5 หลักคิดของเทรดเดอร์มืออาชีพ ได้แก่ 1) ยอมรับความเสี่ยงก่อนเทรด 2) ควบคุมอารมณ์ไม่ให้โลภหรือกลัว 3) มีวินัยเหมือนนักกีฬาอาชีพ 4) มองระยะยาวมากกว่ากำไรสั้น ๆ และ 5) เรียนรู้จากความผิดพลาดแทนการโทษตลาด พร้อมแนะนำให้ผู้เริ่มต้นฝึกเขียนแผนเทรด กำหนดความเสี่ยง และบันทึกพ
Vantage
ATFX
KVB
STARTRADER
EC Markets
IB
Vantage
ATFX
KVB
STARTRADER
EC Markets
IB
Vantage
ATFX
KVB
STARTRADER
EC Markets
IB
Vantage
ATFX
KVB
STARTRADER
EC Markets
IB